ใบความรู้ งานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน โรงเรียนตากพิทยาคม
โรงเรียนตากพิทยาคม ได้ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช และร่วมสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชดำริบางประการเกี่ยวกับการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชว่า “การสอนและอบรมให้เด็กมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พืชพรรณนั้นควรใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงาม ความน่าสนใจ และเกิดความปิติที่จะทำการศึกษาและอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป การใช้วิธีการสอน การอบรมที่ให้เกิดความรู้สึกกลัวว่าหากไม่อนุรักษ์แล้วจะเกิดอันตรายแก่ตนเองทำให้เด็กเกิดความเครียดซึ่งเป็นผลเสียต่อประเทศในระยะยาว” โดยได้ดำเนินงานงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เยาวชน ครู ตลอดจนบุคลากรทุกคนรักและอนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามพระราชดำริของพระองค์ท่าน ด้วยการดำเนินงานทั้ง ๕ องค์ประกอบ และพืชศึกษา จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ทุกระดับชั้น การดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนส่งผลต่อความสามารถในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชของนักเรียน พัฒนาความสามารถในการจัดการเรียนรู้ ตลอดจนส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมได้อีกทางหนึ่งด้วย
พืชศึกษาของโรงเรียนตากพิทยาคม คือ ต้อยติ่งไทย ชื่อวิทยาศาสตร์ Ruellia siamensis J. B. Imlay
ลักษณะเป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 30 -50 ซม. ใบเป็นใบเดี่ยวรูปรีหรือรูปหอกกลับ ออกตรงข้ามเป็นคู่ ดอกมีขนาดใหญ่ เป็นดอกเดี่ยวๆ สีม่วงอมน้ำเงิน ออกตามยอด และซอกใบเป็นช่อๆ ราว 3-6 ดอก แต่จะบานทีละดอกหรือสองดอก กลีบดอกเป็นรูปกรวยหงายยาวประมาณ 3 ซม. ปลายแผ่เป็น 5 แฉกเท่าๆกัน จะออกดอกมากและหนาแน่นในช่วงฤดูฝน ส่วนผลเป็นฝัก รูปทรงกระบอก ยอดแหลม เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลเข้ม และเมื่อแก่จัดหรือถูกน้ำจะแตกเป็น 2 ซีกตามยาว ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก ลักษณะกลมแบน ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด พบได้ทั่วไปในบริเวณกว้าง เรียกว่าสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง
ต้อยติ่งไทยและต้อยติ่งเทศ มีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันในเรื่องความสูงของลำต้น ใบ และดอก ต้นต้อยติ่งฝรั่งจะต้นเล็กกว่าต้อยติ่งไทยแต่จะโตเร็วกว่า ใบจะเรียวยาวแคบ เป็นสีน้ำตาลแดง ดอกออกเป็นช่อหรือบางทีก็ออกเป็นดอกเดี่ยวๆ มีดอกสีม่วง สีขาว หรือสีชมพู
สรรพคุณของต้อยติ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ราก ซึ่งนำมาใช้กับโรคไต ไอกรน ล้างพิษในเลือด ทำให้อาเจียน ใช้ดับพิษในร่างกาย และบรรเทาอาการสารพิษตกค้างในปัสสาวะ ช่วยขับปัสสาวะ ใบใช้ดับกลิ่นตัวกลิ่นปาก กลิ่นเท้า ล้างพิษ ต้านการเสื่อมถอย ชะลอวัย และใช้พอกแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ในเมล็ดมีสารลูทอีโอลิน (Luteolin) ซึ่งเป็นสารตัวเดียวกับที่พบในน้ำนมแม่ มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีแร่ธาตุและสารอาหารในปริมาณสูง ให้ความชุ่มชื้น และช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อโปรโตซัว รวมทั้งมีคุณสมบัติในการเสริมสุขภาพและความงาม นอกจากนี้ เมล็ดยังใช้พอกฝีเพื่อดูดหนอง ช่วยลดการอักเสบ พอกแผลเรื้อรัง ช่วยสมานบาดแผล ช่วยทำให้แผลหายเร็วยิ่งขึ้น และแก้อาการผดผื่นคัน